ผู้ติดตาม

RSS

หลักสูตรวิทยาศาสตร์มหาบัณฑิต

สาขา จิตวิทยาการปรึกษา

COUNSELING PSYCHOLOGY

การมีสุขภาพกายและจิตที่ดี พร้อมที่จะต่อสู้กับอุปสรรคต่าง ๆ อย่างไม่ย่อท้อ และประสบความสำเร็จ เป็นความปรารถนาของมนุษย์ทุกคน หากท่านมีความต้องการที่จะส่งเสริมคุณภาพชีวิตด้วยการป้องกัน และแก้ไขปัญหาทางด้านจิตใจที่เกิดขึ้นในระดับบุคคล องค์กรและชุมชน โดยใช้เทคนิคทางจิตวิทยาที่น่าสนใจ ภาควิชาจิตวิทยา คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่มีความยินดีขอแนะนำหลักสูตร

วิทยาศาสตร์มหาบัณฑิต สาขาวิชาจิตวิทยาการปรึกษา(Counseling Psychology)

ซึ่งทำการเปิดสอนเพื่อให้สอดคล้องและตอบสนองความต้องการในการพัฒนาทรัพยากรบุคคล ตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติของประเทศไทย





จิตวิทยาการปรึกษามีอะไรที่น่าสนใจ

จิตวิทยาการปรึกษา (Counseling Psychology) เป็นจิตวิทยาสาขาหนึ่งที่มุ่งศึกษาเทคนิคทางจิตวิทยาเพื่อป้องกัน
และแก้ไขปัญหาทางด้านจิตใจ รวมทั้งเพื่อพัฒนาทรัพยากรบุคคลให้มีการพัฒนาศักยภาพที่สมบูรณ์ ทั้งนี้เพื่อให้บุคคลและชุมชน
มีความสามารถในการปรับตัวและพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีในสังคมยุคโลกาภิวัฒน์
หลักสูตรวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต (วท.ม.) สาขาจิตวิทยาการปรึกษา มุ่งผลิตนักจิตวิทยาที่มีคุณธรรมและจริยธรรม
มีความรู้ ทักษะ และความสามารถทางจิตวิทยาเพื่อออกไปทำหน้าที่ดังต่อไปนี้

1. จัดบริการปรึกษาเชิงจิตวิทยาทั้งแบบรายบุคคลและแบบกลุ่มให้แก่ บุคลากรในสถาบันหรือองค์กรทั้งภาครัฐและ เอกชน

2. จัดโปรแกรมการฝึกอบรมทักษะต่าง ๆ ทางด้านจิตวิทยาเพื่อป้องกันปัญหาสุขภาพจิตและพัฒนาบุคลากร

3. การประยุกต์เทคนิคทางจิตวิทยาเพื่อส่งเสริมประสิทธิภาพในการทำงานของบุคลากร และเพื่อเพิ่มประสิทธิผล ขององค์กร

4. ประสานงานและให้ความร่วมมือกับบุคลากรในสถาบันหรือองค์กรเพื่อช่วยแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ของบุคลากร

5. ทดสอบทางด้านจิตวิทยาเพื่อศึกษาและรวบรวมข้อมูลนำมาใช้เป็นแนวทางในการจัดบริการปรึกษาเชิงจิตวิทยาที่ เหมาะสมและสอดคล้องกับคุณลักษณะของบุคคล

6. ทำการศึกษาวิจัยทางด้านจิตวิทยา เพื่อหาแนวทางในการป้องกันและแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ทางด้านสุขภาพจิต ที่อาจเกิดขึ้นกับบุคลากรภายในสถาบันหรือองค์กร



โครงสร้างของหลักสูตร

ระยะเวลาที่ใช้ในการศึกษาอย่างน้อย 2 ปี แต่ไม่เกิน 5 ปีการศึกษา สำหรับกระบวนวิชาในหลักสูตรมีจำนวนไม่น้อยกว่า 45 หน่วยกิจ โดยแบ่งเป็นการเรียนกระบวนวิชาต่าง ๆ จำนวน 33 หน่วยกิจและการทำวิทยานิพนธ์ จำนวน 12 หน่วยกิต

กระบวนวิชาหลักที่สำคัญ

1. ทฤษฎีและการฝึกปฏิบัติเกี่ยวกับการปรึกษาแบบรายบุคคล (Theories and Practices of Individual Counseling) ศึกษาทฤษฎีปัจจุบันและการฝึกปฏิบัติเกี่ยวกับการปรึกษาแบบรายบุคคล เช่น แนวคิดแบบพฤติกรรม แบบการรู้คิด แบบมนุษยนิยม และอื่น ๆ

2. จิตวิทยาการปรึกษาแบบกลุ่มชั้นสูง (Advanced Group Counseling Psychology) ศึกษาทฤษฎีและเทคนิคต่าง ๆ ที่ใช้ในการปรึกษาแบบกลุ่ม และฝึกปฏิบัตติทักษะต่าง ๆ ภายใต้การแนะนำของอาจารย์ผู้สอน

3. จิตวิทยาการปรึกษาสำหรับปัญหาพิเศษยุคร่วมสมัย (Counseling Psychology) การคัดเลือกและฝึกปฏิบัติทฤษฎีการปรึกษาที่เหมาะสมสำหรับปัญหาพิเศษยุคร่วมสมัย เช่น ปัญหาการใช้สารเสพติด การติดเชื้อ HIV การทารุณเด็ก ปัญหาโสเภณีเด็ก การจัดบริการการปรึกษาแก่พนักงานปัจจุบันและพนักงานที่ถูกปลดออกจากงาน เป็นต้น

4. ครอบครัวบำบัด (Family Therapy) การนำเทคนิคต่าง ๆ ทางจิตวิทยามาประยุกต์เพื่อช่วยเหลือและหาแนวทางแก้ปัญหาความขัดแย้งต่าง ๆ ภายในครอบครัวรวมทั้งส่งเสริมให้สมาชิกในครอบครัวมีสุขภาพจิตที่ดี

5. การวัดผลทางจิตวิทยาการปรึกษา (Psychological Measurement in Counseling) การประยุกต์ใช้แบบทดสอบที่เกี่ยวข้องกับจิตวิทยาการปรึกษา ศึกษาวิธีการทดสอบ การแปลผล การรายงานผลการทดสอบและจรรยาบรรณของการทดสอบทางจิตวิทยา

สำหรับวิชาเลือก นักศึกษาสามารถเลือกเรียนกระบวนวิชาอื่น ๆ ในสาขาวิชาฯ อย่างน้อย 1 กระบวนวิชา จากกระบวนวิชาต่าง ๆ ต่อไปนี้ เช่น

-จิตวิทยาการวางแผนและพัฒนาอาชีพ (Psychology of Career Planing and Development)

-จิตวิทยาความเจริญแห่งตน (Growth Psychology)

-สุขภาพจิตชุมชน (Community Mental Health)

-จิตวิทยาการเรียนรู้ และการรู้คิดเชิงประยุกต์ (Psychology of Applied Learning and Cognition)

-ทฤษฎีบุคลิกภาพและการวิจัย (Personality Theory and Reasearch)

-จิตวิทยาเด็กพิเศษ (Psychology of Exceptional Children)

นอกจากนี้นักศึกษายังสามารถเลือกเรียนกระบวนวิชานอกสาขาฯ ที่เกี่ยวข้องอย่างน้อย 1 กระบวนวิชา โดยทุกกระบวนวิชา จะมุ่งเน้นให้นักศึกษามีความรู้ที่กว้างขวาง ลึกซึ้ง ทันสมัย และได้รับประสบการณ์ตรงจากการฝึกปฏิบัติ



เรียนจบแล้วสามารถทำงานที่ใดได้บ้าง

หลักสูตรนี้มี ความเหมาะสมสำหรับผู้ที่ทำงานเกี่ยวข้องกับจิตวิทยาการปรึกษาในหน่วยงานและองค์กรต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน เช่น ฝ่ายแนะแนวในโรงเรียน ฝ่ายสังคมสงเคราะห์ในโรงพยาบาล ฝ่ายแรงงานและสวัสดิการสังคม สถานพินิจคุ้มครองเด็ก มูลนิธิเด็ก องค์การพัฒนาเอกชน สถาบันสุขภาพจิต ศูนย์บำบัดยาเสพติด ฝ่ายกิจการนักศึกษาและแนะแนวอาชีพในมหาวิทยาลัย ฝ่ายทรัพยากรบุคคล ฝ่ายฝึกอบรมและพัฒนา ในองค์กรธุรกิจและอุตสาหกรรม และเป็นอาจารย์สอนจิตวิทยาในสถาบันการศึกษาต่าง ๆ

คุณสมบัติผู้มีสิทธิ์สมัครเข้าศึกษา

สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีสาขาใดก็ได้ จากสถาบันการศึกษาทั้งในและต่างประเทศที่ทบวงมหาวิทยาลัย และสำนักงาน ก.พ. ให้การรับรอง

วิธีการคัดเลือกผู้เข้าศึกษา

มีการสอบข้อเขียน 2 วิชา คือ ความรู้เกี่ยวกับจิตวิทยา (จิตวิทยาพัฒนาการ จิตวิทยาสังคม จิตวิทยาบุคลิกภาพ จิตวิทยาการเรียนรู้ และการวัดผลเชิงจิตวิทยา) และความสามารถในการอ่านบทความภาษาอังกฤษ หลังจากสอบ ผ่านข้อเขียนแล้วจึงจะทำการสอบสัมภาษณ์โดยกำหนดจำนวนนักศึกษาที่รับเข้าศึกษา ปีการศึกษาละ 10-15 คน การสอบคัดเลือกจะจัดขึ้นในราวต้นเดือนมีนาคมของทุกปี

  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • RSS

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น